โทนเนอร์กับคลีนซิ่งใช้อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ในการดูแลผิวหน้า ขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน เมคอัพ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพื่อเผยผิวที่สะอาด กระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ขั้นต่อไปหลายคนที่สงสัยว่า โทนเนอร์กับคลีนซิ่งใช้อะไรก่อน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือ โทนเนอร์ และคลีนซิ่ง ซึ่งทั้งสองชนิดต่างก็มีความสำคัญและทำหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป
โทนเนอร์คืออะไร โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าชนิดน้ำ มักมีส่วนผสมของน้ำ สารให้ความชุ่มชื้น และสารบำรุงผิวอื่น ๆ เช่น กรดผลไม้ วิตามิน หรือสารสกัดจากธรรมชาติ โทนเนอร์ทำหน้าที่ปรับสมดุลค่า pH ของผิวให้อยู่ในระดับปกติ กระชับรูขุมขน และเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ขั้นต่อไป
คลีนซิ่งคืออะไร คลีนซิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำ micellaire, cleansing water, cleansing oil, cleansing foam, cleansing gel เป็นต้น คลีนซิ่งทำหน้าที่ขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน เมคอัพ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวอย่างล้ำลึก
ความแตกต่างระหว่างโทนเนอร์กับคลีนซิ่ง
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างโทนเนอร์กับคลีนซิ่งคือ ลำดับการใช้งาน โทนเนอร์ควรใช้หลังล้างหน้าด้วยคลีนซิ่ง เนื่องจากคลีนซิ่งอาจไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด การใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้างที่เหลืออยู่ออกไป นอกจากลำดับการใช้งานแล้ว โทนเนอร์กับคลีนซิ่งยังมีความแตกต่างในด้าน คุณสมบัติและหน้าที่ โทนเนอร์มีเนื้อสัมผัสเป็นน้ำ มักมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นและสารบำรุงผิว จึงช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว กระชับรูขุมขน และเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ขั้นต่อไป ส่วนคลีนซิ่งมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของคลีนซิ่ง ทำหน้าที่ขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน เมคอัพ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวอย่างล้ำลึก
สนับสนุนโดย : https://theskinperfect.com/โทนเนอร์กับคลีนซิ่ง/
댓글